วันอังคารที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2557

6 วิตามินและแร่ธาตุที่ดี ต่อสุขภาพช่องปาก

      เย็นนี้มาพบกับ  6 วิตามินและแร่ธาตุที่ดี ต่อสุขภาพช่องปาก เพราะ ปาก เปรียบเสมือนกับประตูทางเข้าของร่างกาย ในแต่ละวันเรานำทั้งอาหารและเครื่องดื่มมากมายเข้าสู่ร่างกายโดยไม่ขาด การบำรุงรักษาและดูแลช่องปากให้สะอาดและถูกหลักสุขอนามัยอยู่เสมอ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ร่างกายของเราแข็งแรง ซึ่งช่องปากก็เหมือนกับอวัยวะส่วนอื่น ๆ ที่จำเป็นต้องได้รับ แร่ธาตุและวิตามินต่าง ๆ เช่นกัน 

เรามาดูกันสิว่า มีวิตามิน แร่ธาตุอะไรบ้างที่สำคัญต่อช่องปากของเรากันบ้างรับชมกันเลยครับที่วิตามินตัวแรกคือ

วิตามินเอ

วิตามินเอก็มีประโยชน์ต่อช่องปาก เพราะมีส่วนช่วยให้เยื่อบุผิวในช่องปากสร้างเมือกและทำให้การไหลเวียนของน้ำลายดีขึ้น แถมยังช่วยให้เหงือกแข็งแรงและช่วยสมานแผลที่เกิดบริเวณเหงือกอีกด้วย

          ถ้าอยากบำรุงสุขภาพช่องปากไปพร้อม ๆ กับร่างกาย ก็ลองหาอาหารที่มีวิตามินเอ อย่างเช่น ปลา ไข่แดง เครื่องในสัตว์ จำพวกเช่นตับ พืชผักที่มีสีส้มและเหลืองอย่างเช่นแครอท มะม่วง และมันหวาน หรือจะเป็นผักใบเขียวเข้มอย่างผักคะน้า ผักโขม ที่อุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีนมารับประทานกันดู

วิตามินบี

           ลดการอักเสบของลิ้นและรักษาแผลเปื่อยที่ลิ้น ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดกลิ่นปาก สามารถหาทานได้จากเนื้อสัตว์จำพวกสัตว์ปีกและวัว ส่วนในพืชก็จะเป็นพืชตระกูลถั่วและผักใบเขียว แต่สำหรับคนที่ทานมังสวิรัติจะได้รับวิตามิน B12 ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ฉะนั้นอาจจะหาวิตามินมาทานเสริมเพื่อให้ได้รับวิตามินบีอย่างครบถ้วน

 วิตามินซี

          วิตามินซี เป็นวิตามินที่ดีสำหรับคนที่เป็นโรคเหงือก เพราะวิตามินซีจะช่วยเสริมสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการอักเสบที่บริเวณเหงือก ซึ่งการขาดวิตามินซีเป็นสาเหตุของการเกิดโรคเลือดออกตามไรฟัน และวิตามินซียังมีคุณสมบัติเป็นเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยสร้างเสริมภูมิคุ้มกันและทำให้แผลในช่องปากหายเร็วขึ้น วิตามินซีสามารถหาทานได้จากผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว แคนตาลูป พวกและพวกผลไม้ตระกูลเบอร์รี ในผักก็สามารถหาได้จากผักใบเขียว มันฝรั่ง มะเขือเทศ ดอกกะหล่ำ พริกไทย

วิตามินดี

          วิตามินดีเป็นวิตามินที่ร่างกายของเราได้รับง่ายที่สุด เพราะสังเคราะห์ได้จากแสงแดด ถ้าหากร่างกายได้รับแสงแดดไม่เพียงพอก็จะทำให้ร่างกายจะไม่สามารถดูดซึมแคลเซียมเข้าในกระดูกและฟันได้ แต่ก็ควรจะเป็นแดดอ่อน ๆ ในตอนเช้าเท่านั้น เพราะแดดในช่วงเวลาอื่นจะทำให้ได้รับรังสีอัลตราไวโอเลต ที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดมะเร็งผิวได้ได้ สำหรับอาหารจำพวกนมและพวกซีเรียลอาหารเช้า แคปซูลน้ำมันตับปลาก็เป็นแหล่งวิตามินดีชั้นเยี่ยมเช่นกัน

แคลเซียม

          ส่วนใหญ่แล้วร่างกายจะเก็บสะสมแคลเซียมเอาไว้ในกระดูก และแน่นอนว่าฟันก็เป็นส่วนหนึ่งที่สะสมแคลเซียมเอาไว้เช่นกัน โดยแคลเซียมช่วยในการควบคุมระบบต่าง ๆ ของร่างกาย ถ้าหากเราได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอล่ะก็ ร่างกายจะดูดซึมเอาแคลเซียมจากกระดูกมาใช้แทน เป็นสาเหตุทำให้กระดูกเปราะบางลงและเกิดโรคกระดูกพรุน

          ซึ่งอาหารที่ช่วยเสริมแคลเซียม เช่น นม ปลาซาร์ดีน ปลาแซลมอน ผักใบเขียว กระหล่ำดอก กระหล่ำปลี อัลมอนด์ น้ำส้มและนมถั่วเหลือง ถ้าไม่อยากให้ฟันอ่อนแอหรือหักง่ายล่ะก็ ควรเสริมแคลเซียมกันด้วยนะ

โคเอนไซม์ Q10

          โคเอนไซม์ Q10 ช่วยรักษาสุขภาพในช่องปาก ช่วยลดอาการปวดฟันและลดการเลือดออกในช่องปากที่มาจากโรคเหงือก อีกทั้งยังลดการอักเสบของเหงือกและทำให้ลมหยใจหอมสดชื่นอีกด้วย ซึ่งโคเอนไซม์ Q10 นอกจากจะมีในร่างกายแล้วยังพบได้จาก เนื้อหมู เนื้อวัว ตับไก่ น้ำมันคาโนลาและน้ำมันถั่วเหลือง หรือในผักชีฝรั่ง


ที่มา : kapook.com


         เป็นอย่างไรกันบ้าง รู้กันแล้วใช่ไหมว่าวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญต่อช่องปากมีอะไรบ้าง แน่นอนว่าสารอาหารเหล่านี้ไม่ได้จำเป็นต่อช่องปากเพียงอย่างเดียว แต่ยังจำเป็นต่อสุขภาพร่างกายส่วนอื่น ๆ ด้วยนะครับแล้วกลับมาพบกันใหม่กับ 
B-Healthy สุขภายง่ายๆเริ่มต้นที่ตัวเรา สวัสดีครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น