วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2557

"เบียร์ชาเขียวมัทฉะ" กับวิธีทำง่ายของเทรนด์ดื่มเบียร์เพื่อสุขภาพจากญี่ปุ่น

วันนี้ก็มีเรื่องราวดีๆมาบอกกับทุกคนที่ชื่นชอบการดื่มเบียร์ ประโยชน์ของการดื่มในปริมาณที่พอเหมาะกับการใช้ส่วนผสมที่ลงตัว ลองรับชมข้อมูลดูครับ คุณรู้หรือไม่? การดื่มเบียร์ไม่เพียงแต่สร้างบรรยากาศในการปาร์ตี้สังสรรค์ หรือก่อโทษทำให้คนอ้วนลงพุงเพียงอย่างเดียว แต่หากดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ "เบียร์" จะสร้างประโยชน์แก่ร่างกายไม่น้อย ซึ่งจะช่วยลดการก่อตัวของกรดอะมิโน โฮโมซิสเตอีน ที่เกี่ยวข้องกับการเกิดโรคหัวใจ เนื่องจากในเบียร์มีวิตามินบี 6 อยู่จำนวนมาก

จึงเกิดเป็นไอเดียมิกซ์แอนแมทช์เพื่อสุขภาพของชาวญี่ปุ่น ที่คิดค้น "เบียร์ชาเขียวมัทฉะ" เบียร์รสชาติแปลกใหม่ที่ชาวญี่ปุ่นคิดค้นขึ้นมาเอง ซึ่งมีวิธีการทำง่ายๆ สามารถนำไปทำเองที่บ้านได้ เป็นทางเลือกใหม่ของคนที่หลงใหลการดื่มเบียร์ชิลๆ โดยที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะ "ชาเขียว" มีประโยชน์ในตัวอยู่แล้ว ทั้งลดความอ้วน ช่วยลดไขมันในเลือด ช่วยโรคเส้นเลือดอุดตัน ต่อต้านอนุมูลอิสระ และต่อต้านมะเร็ง เป็นพื้นฐานของชาวญี่ปุ่นอยู่แล้วที่นิยมทานอาหารที่ส่งผลบวกต่อสุขภาพ รวมถึงการดื่มเบียร์ด้วย

ทั้งนี้ วิธีการทำต้องใช้เบียร์ชนิดอ่อนมาผสมกับผงมัทฉะ และผงชาเขียวจะช่วยลดความความเข้มข้นของเบียร์ให้จาง ชะลออาการเมาให้ช้าลงอีกด้วย

โดยใช้เบียร์รสอ่อนมาผสมกับผงมัทฉะ แถมข้อดีของเบียร์มัทฉะก็คือผงชาเขียวจะไปลดความขมและความเข้มข้นของเบียร์ ทำให้เมาช้าอีกด้วย สำหรับวัตถุดิบและอุปกรณ์ในการทำมีดังนี้ 1.ชาเขียวมัทฉะแบบผงประมาณ 6 กรัม (เทียบปริมาณต่อ 1 ถ้วย) 2.น้ำร้อน 3.ที่กรองชา 4.แปรงตีชา 5.ถ้วยชา 6.เบียร์ (ควรใช้เบียร์รสอ่อน)

1. ขั้นตอนแรก กรองผงชาเขียวด้วยที่กรองชา เพื่อให้ได้ผงชาที่ละเอียดที่สุด 



2. ตักผงชาใส่ถ้วยชา พร้อมละลายกับน้ำร้อน คนให้ละลายด้วยแปรงชงชาเขียว ให้ส่วนผสมกลายเป็นเนื้อเดียวกัน









3. ตักชาเขียวลงในแก้วที่เตรียมไว้ จากนั้นเทเบียร์ชนิดอ่อนลงไป 





4. รอส่วนผสมระหว่างเบียร์และชาเขียวเข้ากันทั้งหมด เป็นอันเสร็จ



Credit rocketnews24.com

เป็นไงบ้างครับกับการชงชาที่สุดแสนจะง่ายกับเบียร์ที่หลายๆคนชื่นชอบ กินแล้วให้ความแข็งแรงถูกใจคนชอบดื่ม แต่ก็ไม่ควรกินมากจนเกินไปนะครับ ควรกินในปริมาณที่พอเหมาะสมนะครับอย่างไรก็ตามขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะครับผมกับ
 B-Healthy แล้วพบกันใหม่ครับ

วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ประโยชน์จาก "วิตามินบี 3" ลดความอยากสุรา

  วันนี้กับประโยชน์ดีๆจากวิตามิน ซึ่งวันนี้จะขอเสนอวิตามินที่คุณรู้แล้วสามารถนำไปบอกเพื่อนๆหรือคนที่คุณรักช่วยเค้าเลิกเหล้าได้เพราะวิตามินตัวนี้ ถ้าจะพูดถึงประโยชน์จากวิตามินบี 3 แล้วหล่ะก็จะพบว่าวิตามินบี 3 มีสรรพคุณมากมาย อาทิเช่น ช่วยบรรเทาคอเลสเตอรอลสูง ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ บรรเทาสิวชนิดผื่นแดงอักเสบ ลดความอยากดื่มสุรา รู้ถึงประโยชน์อย่างนี้แล้ว เราไปดูกันดีกว่าว่ามีอาหารอะไรบ้างที่ได้วิตามินบี 3  ไปดูกันเลย


1. เนื้อสัตว์

2. ไข่ไก่

3. จมูกข้าว

4. ขนมปังโฮลมีล
ที่มา : Smart SME

เป็นไงบ้างกับข้อมูลวิตามินบี3 ที่สามารถช่วยให้คุณที่ติดสุราให้มีลดความอยากสุราได้ 
 อย่างไรก็ตามขอบคุณทุกทานที่ติดตามครับผมกับ B-Healthy แล้วพบกันใหม่ครับ

วันพฤหัสบดีที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2557

"แคบหมู" กับประโยช์ที่คุณไม่รู้


[product13.jpg]

วันนี้ผมได้ไปอ่านเกี่ยวกับเรื่องแคปหมูมา ผมว่ามันน่าสนใจมากมีหลายๆท่านยังไม่ทราบประโยชน์ของมันรวมถึงผมด้วย ซึ่งพอทราบแล้วก็ถึงบางอ่อ อืมมม ประโยชน์ดีๆ จากแคปหมู มีประโยชน์มากกว่าอาหารทอดหลายๆตัวอีก ลองรับข้อมูลกันดูครับผม

 หากทุกคนทานแคบหมูไม่บ่อยเกินไป เน้นนะครับ ไม่บ่อยเกินไม่ใช่กินทุกวันนะฮัฟ เนื่องด้วยแคปหมูก็ไม่ได้เป็นอาหารที่เลวร้ายอะไรเพราะแคปหมูมีคาร์โบไฮเดรตและไขมันค่อนข้างต่ำ แถมโปรตีนสูงซึ่งปริมาณโปรตีนในแคบหมูนั้น มากกว่ามันฝรั่งทอดกรอบถึง 9 เท่า และมีปริมาณไขมันน้อยกว่ามันฝรั่งทอดกรอบด้วย ยิ่งไปกว่านั้นคือ 43% ชองไขมันในแคบหมูนั้นเป็นไขมันไม่อิ่มตัว และเป็นกรดโอเลอีกซึ่งเป็นกรดชนิดเดียวกันกับน้ำมันมะกอก และอีก 13% เป็นกรดสเตียริก ซึ่งเป็นไขมันอิ่มตัวชนิดหนึ่งที่ปลอดภัย และไม่เพิ่มระดับคอเลสเตอรอล

credit: smartsme

จะเห็นว่าข้อมูลข้างต้นที่กล่าวมา ก็เป็นความรู้ส่วนหนึ่งที่ทำให้เราสามารถเลือกกินอาหารได้มากขึ้นโดยไม่ต้องเป็นกังวล แต่ถึงกระนั้นเราก็ควรกินอาหารให้อยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่กินอะไรมากจนเกินไปและน้อยจนเกินไปเพื่อให้เกิดความสมดุลของร่างกาย อย่างไรก็ตามขอบคุณทุกทานที่ติดตามครับผมกับ B-Healthy แล้วพบกันใหม่ครับ

วันพุธที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ถ้าปวดหัวอะ แก้ง่ายๆ แค่กิน !!

  • อ่าปวดหัวอ่าทำไงดีๆ กินยาไง!
    อ่า ยาอีกแล้วหรอ ไม่อยากกิน อ่า มีอย่างอื่นไหมอ่า?
    อยากได้อย่างอื่นหรอ นี่เลย อีกหลาย
    ทางเลือกสำหรับคนที่ไม่ชอบกินยาแก้ปวดหัว
    มีตัวช่วยอีกหลายตัวที่สามารถ
    ช่วยคุณได้ เพียงแค่คุณกิน ลองรับชมด้านล่างนี้นะครับผม

  • เรามาดูกันว่า อาหารอะไรบ้างที่ทำให้อิ่มท้อง แถมยังเป็นยาช่วยรักษาร่างกายได้ด้วย ไปดูกันเลย !!
  •  
  • ปลาทะเล 

              เช่น ปลาทู ปลาแซลมอน ปลากะพง เนื่องจากปลาทะเลมีโปรตีนสูงซึ่งทำหน้าที่ควบคุมระดับน้ำตาลในร่างกายให้คงที่ เมื่อระดับน้ำตาลคงที่อาการปวดหัวก็จะลดลง รวมทั้งมีกรดไขมันโอเมก้า-3 ที่เป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายเป็นตัวช่วยลดการอักเสบลดอาการปวด
  • กล้วย

              กล้วยเป็นผลไม้ที่มีสารอาหารที่ดีต่อร่างกายหลายชนิด ทั้งวิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี และที่สำคัญมีแร่ธาตุโพแทสเซียม ที่ช่วยปรับสมดุลแร่ธาตุในร่างกาย จากการศึกษาพบว่ากล้วยช่วยลดความเครียดและทำให้เกิดความสุข
  • ขิง 

              ขิงสามารถนำมาปรุงอาหารได้ทั้งคาวและหวาน หรือแม้กระทั่งเป็นเครื่องดื่ม ขิงจะช่วยให้ผ่อนคลาย เลือดลมไหลเวียนได้ดี
  • ข้าวโพด

              เนื่องจากข้าวโพด มีวิตามินบี 3 หรือไนอะซินสูง มีส่วนช่วยให้การไหลเวียนเลือดไปสู่สมองได้ดีขึ้น และลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ ทำให้คลายความเมื่อยล้าได้

  • Credit: smartsme

    เป็นไงบ้างครับกับข้อมูลพวกนี้ เพียงแค่คุณกินมัน มันก็สามารถช่วยให้อาการปวดหัวของคุณดีขึ้นมากนะครับ แบบนี้นี่เองที่เข้าเรียกว่า อาหารคือยา ผมก็หวังว่าทุกคนที่มาอ่านจะได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับผมแล้วกันใหม่กับ 
    B-Healthy 

วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2557

อาหารเช้าเมื่อนี้ที่ไม่ควรพลาด!! เพราะอะไรมาดูกัน

       เพื่อนๆหลายๆคนลืมทานอาหารเช้ากันบางหรือปล่าว ถ้าลืมเรามาทำความเข้าใจกันดีกว่าว่าทำไมเราจึงไม่ควรพลาดอาหารมื้อสำคัญอย่างมื้อเช้านี้  เรามักได้ยินข้อคิดเตือนใจต่าง ๆ ที่กระตุ้นให้เห็นความสำคัญของการกินอาหารเช้า เช่น "อาหารเช้าเปรียบเสมือนขุมพลังประจำวันที่ไม่ควรมองข้าม" หรือ "จงกินอาหารเช้าให้เต็มอิ่มและเต็มที่ ประหนึ่งว่าคุณเป็นพระราชา" ซึ่งสำหรับผู้ที่รับประทานอาหารเช้าเป็นประจำคงเข้าใจถึงคุณประโยชน์เป็นอย่างดี แต่สำหรับคนที่ไม่ได้กินอาหารเช้า ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม คุณได้พลาดช่วงเวลาสำคัญที่ร่างกายจะได้ชาร์จแบตอย่างเต็มที่ เพื่อรับความกระปรี้กระเปร่าตลอดทั้งวันไปเสียแล้วล่ะ

          สาเหตุหลักของการละเลยอาหารเช้า มักมาจากการที่เราเลือกที่จะไม่กินมาโดยตลอดจนติดเป็นนิสัย และบางทีการรับประทานอาหารเย็นมื้อใหญ่ หรือกินของจุบจิบตลอดเวลาจนกระทั่งเข้านอน ก็อาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้คุณรู้สึกไม่อยากกินอาหารเช้าก็เป็นได้

          แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการงดรับประทานอาหารเช้าโดยจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม ผลที่ตามมาคือ ร่างกายจะขาดความสามารถในการควบคุมน้ำหนัก นั่นหมายความว่า คนที่ไม่กินอาหารเช้าเป็นประจำมีแนวโน้มที่จะกินอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง และมักจะมีพฤติกรรมเลือกที่จะบริโภคอาหารที่มีไขมัน แคลอรี่ และน้ำตาลสูงกว่าคนที่รับประทานอาหารเช้า แถมยังเลือกที่จะกินผักและผลไม้น้อยลงกว่าปกติ ซึ่งพฤติกรรมทั้งหมดที่กล่าวมานี้ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคอ้วน และโรคอื่น ๆ ที่ติดตามมากับความอ้วน

เพื่อนๆคงได้รับความรู้ในเรื่องทำไมเราไม่ควรละเลยอาหารเช้าแล้วนะครับเพราะงั้นก็อย่าลืมกินอาหารเช้ากันนะครับผม แล้วพบกันกับ

B-Healthy 

วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2557

Repair Youth form Herbs สมุนไพรสุดแจ่มที่ช่วยเพิ่มฟื้นฟูตวามสาวแก่หญิงสาว

สมุนไพรสุดแจ่มที่ช่วยเพิ่มฟื้นฟูตวามสาวแก่หญิงสาว ได้ยินแล้วคุณอาจจะไม่เชื่อแต่ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากบทความนี้ลองรับชมกันครับผม หญ้ารีแพร์ เปิดสรรพคุณ หญ้าฮี๋ยุ่ม สมุนไพรไทยคืนความสาว เจาะข่าวเด่น เจาะลึก หญ้าฮี๋ยุ่ม พร้อมกับเรื่องของ ต้นแม่ฮ้างสามสิบสองผัว

            หญ้าฮี๋ยุ่ม หรือ หญ้ารีแพร์ กลายเป็นพืชที่ได้รับความสนใจขึ้นมาอย่างมาก หลังได้มีการนำเสนอในฐานะหญ้าตัวเด่นในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ซึ่งจะจัดขึ้นที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ในวันที่ 3-7 กันยายน 2557 หญ้าฮี๋ยุ่ม สรรพคุณเป็นอย่างไร วิธีการใช้ต้องทำอย่างไร มาไขความสงสัยไปกับการพูดคุยกับนายแพทย์ธวัชชัย กมลธรรม อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และเภสัชกรหญิงสุภาพร ปิติพร หัวหน้าเภสัชกร โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ในรายการเจาะข่าวเด่น ที่ออกอากาศไปเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ที่ผ่านมา

            หญ้าฮี๋ยุ่ม ตั้งท่าเป็นพืชนางเอกในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติครั้งที่ 11 ไปเสียแล้ว ซึ่งเป็นงานประจำปีของกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เพื่อเผยแพร่ความรู้การใช้แพทย์แผนไทยในการดูแลตัวเองแก่ประชาชน โดย นายแพทย์ธวัชชัย กล่าวว่า ในปีนี้สนับสนุนเรื่องการดูแลตัวเองของผู้หญิงเป็นพิเศษ จึงเน้นไปที่พืชสมุนไพรสำหรับผู้หญิง โดยมีหญ้าฮี๋ยุ่มเป็นตัวชูโรง ด้วยสรรพคุณเป็นพืชสมุนไพรที่ภูมิปัญญาไทยเลือกใช้ในการดูแลหญิงหลังคลอด ด้วยการนำไปอาบ อบ และกิน ช่วยทำให้ผิวพรรณกลับมาเปล่งปลั่ง มดลูกเข้าอู่ และบาดแผลหายเร็วขึ้น 

            ในทางวิทยาศาสตร์พบว่าหญ้าฮี๋ยุ่ม ซึ่งเป็นพืชตระกูลเดียวกับไผ่ มีสาร "ซิลิกา" (silica) อยู่โดยธรรมชาติ ซึ่งสารตัวนี้เป็นสารต้นกำเนิดของคอลลาเจนและน้ำไขข้อในร่างกาย หากขาดสารนี้จะทำให้มีลักษณะแก่ก่อนวัย ผิวพรรณไม่เปล่งปลั่งเต่งตึง หญิงหลังคลอดที่ต้องการฟื้นตัวได้ไว ภูมิปัญญาชาวบ้านก็ได้นำหญ้าตัวนี้เข้ามาช่วย 

            ส่วนเรื่องชื่อที่เรียกว่า หญ้ารีแพร์ repair นั้น เภสัชกรหญิงสุภาพร ก็เผยถึงที่มาของชื่อว่า ชื่อเดิมของหญ้าฮี๋ยุ่มนั้น ชาวบ้านเรียกกันมานานแล้วตามสรรพคุณของมัน แต่เรียกออกสื่ออาจจะลำบากหน่อย จึงได้ตั้งชื่อเรียกขึ้นใหม่ว่า หญ้ารีแพร์ นั่นเอง 

            ซึ่งหญ้ารีแพร์หรือหญ้าฮี๋ยุ่มนี้ ยังเป็นพืชที่เป็นเคล็ดลับของคนโบราณ ที่แม้จะมีลูกดกเป็นสิบคนแต่ก็ยังมีความสุขในชีวิตคู่ได้ ก็เพราะใช้หญ้าฮี๋ยุ่มเลยช่วยให้แม้ลูกมากแล้วช่องคลอดก็ยังคงกระชับ นอกจากนี้ในช่วง 30 กว่าปีที่แล้วก็มีการค้นพบสารพิเศษในไผ่ มีการสกัดออกมาเป็น "แบมบู ซิลิกา" (bamboo silica) มีคุณสมบัติเพิ่มการสร้างคอนเนคทีฟ ทิชชู (connective tissue) เพิ่มความยืดหยุ่น เพิ่มน้ำเมือก ทำให้มีการหล่อลื่นได้ดีขึ้น เหมือนอย่างที่ชาวบ้านบอกว่าใช้หญ้าตัวนี้แล้วเปิดปุ๊บติดปั๊บ ไม่ต้องรอนานที่จะมีอะไรกัน 

            ส่วนงานวิจัยรับรองของหญ้าฮี๋ยุ่มในไทยตอนนี้ยังไม่มีอย่างเป็นทางการ แต่ทางกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ก็จะดำเนินการวิจัยให้เป็นแบบแผนต่อไปเพื่อเป็นหลักประกันความมั่นใจในความปลอดภัยและประสิทธิภาพ ซึ่งทางนายแพทย์ธวัชชัย เผยว่า เชื่อได้ว่ามีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพพอสมควร เนื่องจากมีการใช้กันมาหลายร้อยปี ไม่มีอันตราย เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ชาวบ้าน หมอชาวบ้าน ผู้ใช้แล้วก็ยืนยันว่าได้ผลดี ทางกรมฯ เองก็สนับสนุนให้ใช้ เปรียบเหมือนอาหารหรือผักพื้นบ้านที่ช่วยบำรุงกำลังและรักษาอาการหลังคลอดได้ด้วย ส่วนทางต่างประเทศนั้น ก็มีงานวิจัยออกมาเกี่ยวกับสาร แบมบู ซิลิกา ว่าช่วยเรื่องให้เส้นเอ็น กระดูก และปอดแข็งแรง รวมถึงอวัยวะใดก็ตามที่ต้องการความยืดหยุ่นมีความแข็งแรงดี และช่วยเรื่องความเปล่งปลั่งของผิวพรรณด้วย 

สำหรับวิธีการใช้ประโยชน์จากหญ้าฮี๋ยุ่มหรือหญ้ารีแพร์นั้น สามารถใช้ได้ทั้งการกินและใช้ภายนอก การกินก็สามารถนำยอดหญ้าฮี๋ยุ่มมาลวกจิ้มน้ำพริก นำใบขยี้กับน้ำร้อน หรือต้มแล้วคั้นแต่น้ำดื่ม มีฤทธิ์ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยสมานแผล ทำให้ผิวเก็บกักน้ำได้ดีขึ้น ผิวพรรณจึงชุ่มชื้น เปล่งปลั่งเต่งตึง ส่วนการใช้ภายนอก คนโบราณการนำมาตำหรือขยี้แล้วโปะแผล ต้มน้ำอาบ หรือเอาน้ำซะ (น้ำจากการชะล้างหลาย ๆ รอบ) อาบ ช่วยให้แผลหายไว และที่สำคัญคือใช้ในการอยู่ไฟสำหรับหญิงหลังคลอด โดยให้นำหญ้าฮี๋ยุ่มตากแห้งมาก่อไฟ ใช้ไม้ผุเป็นเชื้อไฟพอให้ไฟคุนิด ๆ (ใช้ไม้ผุไฟจะได้ไม่ให้ความร้อนมากเกินไป) แล้วนั่งเอาไอรม รมครั้งละ 10-15 นาที ทำเช้า-เย็นเป็นเวลา 7-10 วัน ช่วยให้มดลูกเข้าอู่ ลดบวม ช่วยลดน้ำหนัก ซึ่งทางวิทยาศาสตร์ความร้อนช่วยลดบวมได้ หญิงหลังคลอดที่มีปัญหาเรื่องหย่อนยานและบวมจึงทำได้ผลดี ซิลิกาที่มีก็ช่วยเรื่องการสมานแผล เสริมสร้างเนื้อเยื่อ ทำให้แผลหายไวไม่ติดเชื้อ ส่วนผู้หญิงทั่วไปที่ต้องการทำเพื่อสรรพคุณกระชับช่องคลอด ให้ทำในลักษณะอบไอน้ำ คือนำหญ้าไปต้มแล้วนั่งเอาไอน้ำรมแทน

            สำหรับในผู้ชายก็สามารถใช้ประโยชน์จากหญ้าฮี๋ยุ่มได้เช่นกัน ทั้งเรื่องช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น ใช้ในการรักษาบาดแผล และสามารถทำในลักษณะอบไอน้ำเพื่อบรรเทาอาการริดสีดวงด้วย 

            ในต่างประเทศมีการนำสารสกัดแบมบู ซิลิกา ไปผสมเครื่องสำอางเพื่อช่วยให้ผิวพรรณยืดหยุ่นเปล่งปลั่ง นับว่าเป็นสารที่ถูกนำไปใช้ประโยชน์ในวงกว้างอยู่แล้ว ส่วนทางโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรเองก็ได้นำสารตัวนี้ไปเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวในไลน์ "บัวไผ่ข้าว" ด้วยเช่นกัน ส่วนโครงการต่อไปเกี่ยวกับหญ้าฮี๋ยุ่ม ก็จะมีสปาหญ้าฮี๋ยุ่ม ที่จะช่วยเสริมคอลลาเจนทำให้ผิวพรรณสดใสและดูแลผู้หญิงหลังคลอด 

ทั้งนี้นอกจากหญ้าฮี๋ยุ่มแล้ว ในงานก็ยังมีพืชสมุนไพรสำหรับคุณผู้หญิงที่น่าสนใจตัวอื่น ๆ อีก เช่น ต้นแม่ฮ้างสามสิบสองผัว ซึ่งนำไปทำเป็นยาบำรุงสำหรับผู้หญิงตำรับเฉพาะของชาวเลย โดยมีตำนานเล่าขานเรื่องที่มาของชื่อว่า หญิงรายหนึ่งบำรุงตัวด้วยพืชชนิดนี้จนแข็งแรงเรื่องอย่างว่ามากจนสามีสู้ไม่ไหว แต่งกับใครเป็นต้องเลิกไปถึง 32 คน ที่สุดก็เลยต้องไปบวชชี, ต้นจีผาแตก โดยจีเป็นภาษาเหนือแปลว่าเจาะ ความหมายโดยรวมของชื่อออกจะทะลึ่งนิดหน่อย และที่จริงแล้วเป็นพืชที่บำรุงได้ทั้งหญิงและชาย แต่ว่ากันว่าผู้ชายไม่ค่อยยอมให้ผู้หญิงกิน เพราะกลัวว่าผู้หญิงจะอยู่ข้างบนนั่นเอง

ขอขอบคุณ http://www.smartsme.tv/ และทุกท่านที่เข้ามารับชม B-Healthy นะครับผมแล้วพบกันใหม่นะครับผม